อัพเดทล่าสุด: 21 มิ.ย. 2024
389 ผู้เข้าชม
การจดสิทธิบัตรในประเทศไทยด้วยตัวเองอาจจะเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนหากไม่คุ้นเคยกับขั้นตอนและข้อกำหนดต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจและเตรียมตัวให้ดีจะช่วยให้กระบวนการนี้ง่ายขึ้น บทความนี้จะแนะนำขั้นตอนและข้อมูลสำคัญในการจดสิทธิบัตรในประเทศไทยอย่างเป็นลำดับ
การดำเนินการยื่นจดสิทธิบัตรในประเทศไทย สามารถดำเนินการได้เองโดยมีขั้นตอนดังนี้
- ร่างคำขอสิทธิบัตร
การร่างคำขอสิทธิบัตรเป็นขั้นตอนที่สำคัญและต้องการความละเอียดรอบคอบ เนื่องจากจะเป็นเอกสารที่ใช้ในการขอรับสิทธิ์ในการคุ้มครองสิ่งประดิษฐ์ของคุณ ขั้นตอนการร่างคำขอสิทธิบัตรสามารถแบ่งออกเป็นหลายขั้นตอน ดังนี้:
1. ชื่อสิ่งประดิษฐ์ ชื่อของสิ่งประดิษฐ์ควรเป็นชื่อที่สั้น กระชับ และสื่อความหมายชัดเจนถึงสิ่งประดิษฐ์นั้น
2. ข้อมูลผู้ประดิษฐ์และผู้ขอสิทธิบัตร ระบุชื่อและข้อมูลของผู้ประดิษฐ์ (Inventor) และผู้ขอสิทธิบัตร (Applicant) ซึ่งอาจจะเป็นบุคคลเดียวกันหรือไม่ก็ได้
3. บทคัดย่อ (Abstract) บทคัดย่อเป็นการสรุปสิ่งประดิษฐ์ในลักษณะสั้น ๆ มักจะมีความยาวไม่เกิน 150 คำ โดยต้องระบุคุณสมบัติและการใช้งานหลัก ๆ ของสิ่ประดิษฐ์
4. รายละเอียดของสิ่งประดิษฐ์ (Description)ในส่วนนี้ควรระบุรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์อย่างชัดเจน ประกอบด้วย:
- ภูมิหลังของสิ่งประดิษฐ์ (Background): อธิบายถึงสถานะของเทคโนโลยีหรือสิ่งประดิษฐ์ในปัจจุบันและปัญหาที่ต้องการแก้ไข
- การเปิดเผยสิ่งประดิษฐ์ (Disclosure of the Invention): อธิบายวิธีการทำงาน โครงสร้าง หรือองค์ประกอบของสิ่งประดิษฐ์
- วิธีการทำงาน (Operation): อธิบายวิธีการทำงานของสิ่งประดิษฐ์ วิธีการใช้ หรือวิธีการผลิต
5. คำเคลม (Claims) คำเคลมเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของคำขอสิทธิบัตร เป็นการระบุขอบเขตของการคุ้มครอง โดยต้องเขียนให้ชัดเจนและครอบคลุมถึงคุณสมบัติและลักษณะของสิ่งประดิษฐ์ที่ต้องการคุ้มครอง
6. ภาพวาดหรือรูปถ่าย (Drawings)
ภาพวาดหรือรูปถ่ายควรแสดงถึงโครงสร้างและส่วนประกอบของสิ่งประดิษฐ์อย่างชัดเจน เพื่อช่วยในการอธิบายรายละเอียดของสิ่งประดิษฐ์ในคำขอ
- เตรียมเอกสารตามประเภทสิทธิบัตร
เอกสารการประกอบการจดสิทธิบัตร
จดในนามบุคคลธรรมดา กรณีผู้ประดิษฐ์เป็นบุคคลเดียวกับผู้ขอถือสิทธิ
- แบบพิมพ์คำขอ - สำเนาบัตรประชาชนของผู้ขอรับความคุ้มครองและผู้ประดิษฐ์ - คำรับรองเกี่ยวกับสิทธิขอรับสิทธิบัตร/อนุสิทธิบัตร - หนังสือมอบอำนาจ (กรณียื่นผ่านตัวแทน) - รายละเอียดคำขอรับสิทธิบัตร เช่น รายละเอียดการประดิษฐ์, ข้อถือสิทธิ, รูปภาพ(ถ้ามี), บทสรุปการประดิษฐ์
กรณีผู้ประดิษฐ์กับผู้ขอถือสิทธิเป็นคนละคนกัน - แบบพิมพ์คำขอ - สำเนาบัตรประชาชนของผู้ขอรับความคุ้มครอง - สำเนาบัตรประชาชนของผู้ประดิษฐ์ - หนังสือสัญญาโอนสิทธิขอรับสิทธิบัตร/อนุสิทธิบัตร - หนังสือมอบอำนาจ (กรณียื่นผ่านตัวแทน) - รายละเอียดคำขอรับสิทธิบัตร เช่น รายละเอียดการประดิษฐ์ ข้อถือสิทธิ, รูปภาพ (ถ้ามี), บทสรุปการประดิษฐ์ | จดในนามนิติบุคคล - แบบพิมพ์คำขอ - สำเนาหนังสือรับรองบริษัท/ห้างหุ้นส่วน - สำเนาบัตรประขาชนของผู้มีอำนาจลงนามของบริษัท/ห้างหุ้นส่วน - สำเนาบัตรประชาชนของผู้ประดิษฐ์ - หนังสือสัญญาโอนสิทธิขอรับสิทธิบัตร/อนุสิทธิบัตร - หนังสือมอบอำนาจ (กรณียื่นผ่านตัวแทน) - รายละเอียดคำขอรับสิทธิบัตร เช่น รายละเอียดการประดิษฐ์ ข้อถือสิทธิ, รูปภาพ (ถ้ามี), บทสรุปการประดิษฐ์ |
* สำหรับสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ ใช้รูปภาพภายนอกของงานประดิษฐ์ทั้ง 6 ด้าน พร้อมภาพไอโซเมตริกแทนรายละเอียดการประดิษฐ์
- ยื่นคำขอรับสิทธิบัตร พร้อมชำระค่าธรรมเนียม
โดยเราสามารถไปยื่นจดทะเบียนได้ที่ส่วนบริหารงานจดทะเบียน (ชั้น 3) สำนักสิทธิบัตร กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ. สนามบินน้ำ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดที่ท่านมีภูมิลำเนาอยู่
ข้อควรระวังและคำแนะนำ- การเขียนคำเคลมให้ชัดเจนและครอบคลุมเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้รับการคุ้มครองในขอบเขตที่ต้องการ
- ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิบัตรหากไม่มั่นใจในขั้นตอนหรือรายละเอียดต่าง ๆ
- ติดตามสถานะของคำขออย่างสม่ำเสมอผ่านระบบออนไลน์ของกรมทรัพย์สินทางปัญญา
การจดสิทธิบัตรด้วยตัวเองในประเทศไทยอาจมีความยุ่งยากในด้านการเตรียมเอกสารและการตรวจสอบ แต่การเตรียมตัวและทำความเข้าใจในกระบวนการจะช่วยให้การจดสิทธิบัตรเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือหากท่านต้องการให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยเหลือในการดำเนินการ
AKIP Venture ยินดีให้คำปรึกษาทุกท่านในเรื่องสิทธิบัตร และนวัตกรรม การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิบัตรหรือทนายความที่มีความเชี่ยวชาญในการจดสิทธิบัตรสามารถช่วยในการเตรียมคำขอและคำเคลมที่มีประสิทธิภาพ
source :
การจดสิทธิบัตรเบื้องต้น : Update 2567